5 Tips…วางแผนการเงินยังไงให้รุ่ง

 

หลายคนคงเคยสังสัย…ทำไมเงินถึงเหลือแค่นี้? ทั้งๆ ที่ตัวเองก็พยายามใช้เงินแบบรัดเข็มขัดสุดชีวิตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ เด็กจบใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วัยทำงานหรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่หลายคนที่ทำงานมากว่าค่อนชีวิต ยิ่งใกล้ปลายเดือนทีไร คำว่า “สิ้นเดือน…เหมือนสิ้นใจ” ก็มักลอยเข้ามาในหัวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เงินในกระเป๋าเราไม่ค่อยสมดุลก็มาจากหลายปัจจัย และบางอย่างก็เป็นอะไรที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบ้าน ค่ารถ อย่างไรก็ตาม การบริหารเรื่องๆ ทองๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแค่อาศัยความมีวินัย รู้จักวางแผน และนำเงินไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าเท่านั้น

5 วิธี…ช่วยบริหารเงินในกระเป๋าเราอย่างมีประสิทธิภาพ

1.วางแผนรายจ่ายของตัวเอง

ข้อนี้สำคัญที่สุด เราต้องรู้ว่าตัวเองและครอบครัวมีรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือนเท่าไร พยายามใช้เงินอย่างมีเหตุผลให้น้อยกว่ารายรับ จากนั้นก็บันทึกรายรับรายจ่ายให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าเราเสียเงินไปกับอะไรและมันคุ้มค่าหรือไม่ หากพบรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือย เช่น ค่าสมาชิกฟิตเนสที่เราไม่ค่อยได้ไปก็พยายามตัดออกซะ แล้วนำเงินส่วนนั้นไปออมหรือลงทุนแทน

2.ใช้เงินเท่าที่จำเป็น

“อะไรที่ควรซื้อ…เราก็ต้องซื้อ” พิจารณาให้ดีว่าสิ่งนั้นจำเป็นจริงๆ หรือไม่ และหากจ่ายเงินไปแล้ว ตัวเองจะต้องไม่เดือดร้อนเป็นหนี้เป็นสิน แต่บางครั้งเวลาซื้อของใหญ่ๆ (บ้าน,รถ) เราอาจต้องยอมเป็นหนี้ด้วยการผ่อนชำระเพราะจะให้จ่ายก้อนใหญ่ทีเดียวเลยคงไม่ไหว แต่จะเช่าก็คงไม่คุ้มเพราะเราคงไม่ได้เป็นเจ้าของสักที แถมเงินค่าเช่าที่จ่ายไปก็ 70% ของราคาเต็มแล้ว

3.รู้จักลงทุน

เพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่เคยลงทุนมาก่อนอาจต้องขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะการลงทุนมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ประกันแบบบำนาญที่ให้ความมั่นคงกับเรายามเกษียณ แต่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม การลงทุนยอดนิยมอย่างหุ้น หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในปัจจุบันคือ ประกันแบบต่างๆ ทั้งประกันชีวิต สุขภาพ วินาศภัย ประกันรถ ซึ่งล้วนให้ความคุ้มครองยามเกิดเหตุฉุกเฉินที่เราไม่คาดคิด

4.เปิดบัญชีเงินฝาก

นำเงินที่เหลือในแต่ละเดือนไปเปิดบัญชีธนาคารเพราะนอกจากเราจะได้ดอกเบี้ยแล้ว ยังปลอดภัยกว่าการเก็บเงินไว้กับตัวอีกต่างหาก แม้ยอดฝากในแต่ละเดือนจะไม่มากเท่าไร  แต่หากเราฝากเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป เราต้องมีเงินเก็บแน่นอน เพียงแต่ควรมีวินัยในการออม และไม่ถอนเงินส่วนนี้ออกมาใช้หากไม่มีความจำเป็น

5.หารายได้เสริม

หากเงินเดือนจากงานประจำไม่พอใช้ก็ควรหารายได้เสริมบ้าง เช่น ติวเตอร์สอนพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครูสอนภาษาที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ และค่าตอบแทนดีกว่าการสอนวิชาอื่นๆ หรือการขายของมือ 2 ที่เราไม่ได้ใช้แล้ว ซึ่งหากขี้เกียจวุ่นวายเปิดร้านก็สามารถลงขายง่ายๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้

แต่….ทั้งหมดนี้คงไม่จำเป็นเลย หากเราวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ ใช้อย่างมีสติเท่าที่จำเป็น ไม่สุรุ่ยสุร่าย พยายามขวนขวายหาวิธีสร้างรายได้เพิ่มเติม และศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อเพิ่มพูนเงินที่มีไว้บ้าง โดยสำหรับตัวผู้เขียนเอง วิธีที่ช่วยให้เงินไม่ขาดดุลก็คือ การเก็บหอมรอมริบ โดยพึงระลึกไว้เสมอว่า “ออม…เพื่ออนาคต”

 

ที่มา http://www.lifehack.org/409796/5-tips-on-how-to-manage-your-finances-more-efficiently