ปกติแล้วสิ่งที่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ให้ความสนใจคงหนีไม่พ้นการดึงดูดลูกค้า หรือไม่ก็วิธีสร้างกำไรให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับการบริหารบริษัทให้อยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ก็คือ ทำอย่างไรจึงจะงบประมาณได้คุ้มค่ามากที่สุด หลายแห่งจึงออกมาตรการออกมามากมายเพื่อตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง แต่บางครั้งมาตรการเหล่านั้นก็อาจทำให้ลูกน้องรู้สึกไม่ดีเพราะถูกควบคุมงบประมาณมากเกินไปก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ยังพอมี 3 วิธีช่วยบริษัทประหยัดงบฯ ง่ายๆ ที่เราอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน
1. ระดมทุนสาธารณะ
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ต่างก็ต้องการเงินทุนมาบริหารขยับขยายกิจการให้มั่นคงขึ้นทั้งนั้น บางแห่งจึงเลือกใช้บริการเงินกู้ของธนาคาร ขณะที่บางแห่งก็อาศัยการลงทุนด้านอื่นๆควบคู่ไปด้วย ตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือ “การระดมทุนสาธารณะ” (Crowdfunding )ซึ่งเราไม่ต้องไปเสียค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยเงินกู้แพงๆ ยิ่งในยุคดิจิตอลที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าเช่นในปัจจุบัน เราสามารถระดมทุนสาธารณธผ่านเว็บไซต์ได้สบายๆ ผ่าน Kickstarter และ Indiegogo แถมเรายังสามารถติดต่อกับคู่ค้าที่สนใจจะร่วมทุนกับบริษัทเราจริงๆ ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านนายหน้าหรือตัวแทนใดๆ โดยนักลงทุนใน Crowdfunding ส่วนใหญ่มักสนใจธุรกิจต้นทุนต่ำประเภท สิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ เสื้อยืด พวงกุญแจ เป็นต้น
2. ตัดรายได้ที่ไม่จำเป็นออก
ก่อนจะจ้างนักกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือที่ปรึกษาด้านการเงินจากภายนอกเพิ่มเติม ให้คำนึงค่าจ้างที่ต้องจ่ายพวกเขาให้ดีเสียก่อน หากในบริษัทมีพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้วก็ไม่ควรจ้างเปลืองงบฯ อีก ถ้าต้องการผู้รู้เฉพาะทางมาช่วยงานจริงๆ สมัยนี้เราสามารถค้นคว้าได้ผ่าน google และหนังสือจากห้องสมุดได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท เพียงแค่ยอมเสียเวลาศึกษาเพิ่มเติมหน่อยเท่านั้นเอง อีกทางเลือกหนึ่งคือ ลองขอความช่วยเหลือจากพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือจ้างญาติสนิทมิตรสหายของเราดูเผื่อจะต้องจ่ายค่าจ้างในอัตราที่ไม่แพงมากนัก
3. พึ่งพาฟรีแลนซ์เว็บไซต์
การทำโฆษณาหรือโปรโมตธุรกิจเกือบทุกประเภทมักต้องอาศัย graphic design สวยๆ การเขียน marketing content ผ่านโซเชียล แต่บางบริษัทก็นิยมจ้าง organizer มืออาชีพจากข้างนอกมารับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ไปเลยหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเสียเงินจ้างบริษัททำโฆษณาอยู่ ก็ลองเปลี่ยนมาใช้บริการเว็บไซต์ที่รับออกแบบงานประเภทนี้ดูบ้าง เช่น Freelancer Fiverr และ Upwork ซึ่งดูแลโดยฟรีแลนซ์มืออาชีพที่ไม่ชอบการทำงานในออฟฟิศ ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่ต้องเสียค่าจ้างแพงมากเหมือนกับการจ้างบริษัทอื่น
ขอบคุณที่มาจาก http://www.lifehack.org/454030/3-effective-cost-cutting-ideas-for-your-small-business