มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ คงเคยเจอกับสถานการณ์ใช้เงินเดือนชนเดือน หรือบางทีก็ใช้หมดก่อนเงินเดือนงวดใหม่จะออกเสียอีก หลายคนจึงละเลยการออมเงินไปโดยปริยาย เพราะคิดว่าแค่จะใช้ให้พอก็ยากอยู่แล้ว จะเอาที่ไหนไปเหลือเก็บ แต่…เคยฉุกคิดกันมั้ย…ถ้าวันใดมีเรื่องให้ต้องใช้เงินกะทันหันแล้วจะเอาจากไหน? หากจะหวังพึ่งเงินก้อนอย่างโบนัสก็คงจะดูเป็นการไม่วางแผนไปหน่อย ดังนั้น เราจึงควรรู้จักวางแผนชีวิตด้วยการเก็บหอมรอมริบไว้บ้าง อาจไม่ต้องมากมายอะไร ค่อยๆ เก็บไปเดือนละนิดละหน่อย จะได้มีเผื่อไว้ใช้ยามจำเป็นในอนาคต วันนี้เราจึงนำ 3 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยในการออมเงิน ทำให้มีเงินเก็บเยอะขึ้นมาฝาก ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
1. ออมก่อนใช้
ควรเปิดบัญชีสำหรับออมเงินแยกกับบัญชีเงินเดือน จะเป็นแบบฝากประจำหรือออมทรัพย์ก็ได้แล้วแต่เราสะดวก หากกลัวตัวเองตบะแตกก็เปิดแบบฝากประจำไปเลย แต่ถ้าต้องการสภาพคล่องเผื่อมีเรื่องให้ใช้ก็เลือกแบบออมทรัพย์ธรรมดาก็พอ เวลาเงินเดือนออกก็แบ่งไปเก็บไว้ในบัญชีนั้นเลย จากนั้นก็พยายามใช้เงินให้พอกับส่วนที่เหลือไว้ แนะนำให้ลองวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือนด้วยการคำนวณดูว่าเฉลี่ยแล้วเราจะใช้วันละเท่าไร วิธีนี้จะช่วยให้เรามีวินัยในการออมมากขึ้นแน่นอน ยิ่งสมัยนี้ธนาคารต่างมีบริการระบบตัดเงินอัตโนมัติจากบัญชีเราเลย ทำให้การหักเงินจากบัญชีเงินเดือนไปเข้าบัญชีเงินเก็บสะดวกรวดเร็ว เพียงแค่ทำเรื่องแจ้งวัน เวลา และจำนวนเงินที่ต้องการให้หักในแต่ละเดือนกับธนาคารให้เรียบร้อยเท่านั้น
2. บันทึกรายรับ – รายจ่ายเป็นประจำ
คนส่วนใหญ่มักมองว่าการทำบันทึกรายรับ – รายจ่ายเป็นเรื่องยุ่งยากเลยตัดสินใจไม่ทำดีกว่า แต่หากใครขี้เกียจหรือกลัวลืมสมัยนี้เขามีแอพลิเคชั่นวางแผนทางการเงินในมือถือออกมาให้เราลองเล่นมากมาย ทำให้เราเรียกดูยอดรายรับรายจ่ายของแต่ละวัน/ เดือนได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา หรือแม้กระทั่งช่วยเราวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือนว่าจะใช้เท่าไร ใช้ไปกับอะไร แล้วจะแบ่งไปออมเท่าไร เป็นต้น
3. มองหาการลงทุนเพื่อเพิ่มพูนเงินออมที่มี
หากสามารถปฏิบัติตัวให้มีวินัยในการออมอย่างสม่ำเสมอทุกเดือนได้จนมีเงินเก็บประมาณนึง ลองแบ่งออกมาสักหน่อยแล้วนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนเพื่อต่อยอดเงินเก็บของตัวเองจากเงินปันผล ผลตอบแทน หรืออัตราดอกเบี้ยสูงๆ ดีกว่าเงินฝากทั่วไป เช่น กองทุนต่างๆ ฝากประจำ เล่นหุ้น ซื้อประกันชีวิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนจะลงทุนใดๆ เราควรศึกษาข้อมูลหรือรายละเอียดต่างๆ ให้ดีเสียก่อนเพราะการลงทุนแต่ละประเภทก็จะมีข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงแตกต่างกันออกไป จะได้หาแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเราที่สุดได้ หรือหากลงทุนไปแล้วเกิดข้อผิดพลาด ไม่ได้ผลตามที่เราตั้งไว้ก็ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนหาช่องทางที่ดีกว่าต่อไป
เห็นมั้ยว่าแท้จริงแล้ว การออมเงินไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่รู้จักลงมือทำ มีความตั้งใจและมีวินัยในการใช้เงิน ไม่สุรุ่ยสุร่าย เสียเงินไปกับสิ่งไม่จำเป็น เพียงเท่านี้ทุกคนก็สามารถมีเงินเก็บตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้แล้ว
ขอบคุณที่มาก kapook.com