13 วิธี…ช่วยคลายร้อนจาก สสส.

 

สำหรับสภาพอากาศบ้านเราในช่วงเดือนเมษายน เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ร้อนสุดๆ ไปเลย แถมยังมีแนวโน้มว่าอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปี นอกจากอากาศร้อนจะทำให้คนหงุดหงิดง่ายแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ตามที่เราได้ยินข่าวกันบ่อยๆ เช่น อาการฮีทโสตรก/ โรคลมแดด ท้องเสียท้องร่วงจากเชื้อโรคในอาหาร ผิวไหม้ผิวคล้ำเพราะแดดในหน้าร้อน เป็นต้น แม้จะพยายามคลายร้อนด้วยการตากแอร์หลบแดดอยู่ในที่ร่มก็ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพเราทนทานต่ออุณหภูมิเช่นนี้ 100% วันนี้เราจึงนำ 10 วิธี…คลายร้อนง่ายๆ จาก สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) มาฝากทุกคนเพื่อจะได้รับมือกับหน้าร้อนได้ดียิ่งขึ้น

1. จิบน้ำบ่อยๆ ระหว่างวัน โดยไม่ควรดื่มน้ำเย็นจัด แต่ให้เป็นน้ำที่อุณภูมิห้องแทน นอกจากนี้ยังต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

2. หลีกเลี่ยงอาหารค้างคืน หรือ สุกๆ ดิบๆ เพราะเสี่ยงต่อเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ที่เติบโตได้ดีในอากาศร้อนๆ จึงควรรับประทานเฉพาะอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ

3. สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อสบายๆ บางเบา และสีอ่อน เพื่อการระบายความร้อนที่ดีกว่า

4. อย่าเปิดแอร์เย็นฉ่ำจนเกินไป เพราะลมจากแอร์อาจทำให้เป็นหวัดได้ง่าย ควรเปิดในอุณหูมิที่พอดีๆ ไม่แตกต่างจากอุณหภูมิห้องมากนัก

5. พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ทดแทนพลังงานที่เสียไประหว่างวัน ด้วยการปรับเวลานอนให้เร็วขึ้นเพราะหน้าร้อนช่วงกลางงวันจะยาวนานกว่ากลางคืน

6. ทากันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อป้องกันผิวเสีย ผิวไหม้ ผิวคล้ำ และลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง

7. เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายด้วยแป้งเย็น หรือสเปรย์คลายร้อน

8. พกยาดมยาหม่องติดตัวไว้ หากเกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะจากอากาศร้อนจะได้ช่วยบรรเทาได้

9. ปกป้องร่างกายจากแดดหน้าร้อน ด้วยการพกร่วม หมวก แว่นตาดำ สวมเสื้อแขนยาว เป็นต้น

10. ลดของหวานลงบ้าง เพราะร่างกายจะต้องเพิ่มการเผาผลาญน้ำตาล ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเราสูงขึ้นไปด้วย

11. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเสี่ยงต่ออาการช็อค เนื่องจากอากาศร้อนทำให้แอลกอฮอล์ซึมเข้ากระแสเลือดเร็วมากขึ้น

12. อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีเย็นเพื่อความรู้สึกสดชื่นเย็นสบาย เช่น ฟ้า ขาว เขียว หรือพาสเทล

13. ออกกำลังกายให้เหมาะสม ไม่หักโหมเกินไปเพราะจะทำให้เหนื่อยง่าย และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งตอนแดดจัดๆ เปลี่ยมาเป็นตอนเช้าที่แดดอ่อนๆ หรือตอนเย็นแทน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)