เตรียมตัวอย่างไร จากมนุษย์เงินเดือนสู่เจ้าของธุรกิจ

เตรียมตัวอย่างไร จากมนุษย์เงินเดือนสู่เจ้าของธุรกิจ

จากการสำรวจในปี 2020 พบว่าอัตราการลาออกของมนุษย์เงินเดือน ในปี 2560 เพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยละ 16.6 (จากร้อยละ 16.3 ในปี 2559 และร้อยละ 13.5 ในปี 2558)  โดยพนักงานที่ลาออกนั้น บางส่วนออกมาเพื่อที่จะทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ต้องอาศัยการเชี่ยวชาญในการบริหาร จึงจะสามารถอยู่รอดมาจนถึงกว่า 10 ปีได้

ดังนั้น การที่คุณจะทำธุรกิจให้ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนต้องอาศัยประสบการณ์ในด้านต่างๆ เตรียมตัวและพิจารณาในเรื่องต่อไปนี้

  1. แผนการทำธุรกิจ

ต้องใช้เวลาเริ่มอย่างน้อย 3-5 ปี โดยการเริ่มทำธุรกิจนั้นจะต้องมีการทำแผนธุรกิจก่อนเสมอเพื่อให้เห็นภาพรวมของธุรกิจในทุกมุมมอง โดยการพิจารณาโมเดลของธุรกิจให้ครบถ้วน ทั้งกลุ่มลูกค้า สินค้า กลุ่มเป้าหมาย ต้นทุน การตั้งราคาต่างๆ เพื่อให้ได้กำไร

  1. รูปแบบการทำธุรกิจที่เหมาะสม
    อย่างการประกอบธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยพิจารณาถึงหลักการเทียบภาษี การหักค่าใช้จ่ายต่างๆ

– อัตราภาษีที่แตกต่างกันมาก

  • บุคคลธรรมดา จะต้องเสียภาษีในอัตราก้าวหน้า ตั้งแต่ร้อยละ 5 – 35
  • นิติบุคคล จะเสียภาษีในอัตราคงที่ร้อยละ 20 สำหรับนิติบุคคลขนาดใหญ่

 – การหักค่าใช้จ่าย

  • บุคคลธรรมดา สามารถเลือกใช้วิธีการหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาสำหรับเงินได้บางประเภท
  • นิติบุคคล สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริง โดยต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบการหักค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม
  1. ทรัพยากรที่จำเป็นต้องมี

จะเปรียบเทียบกับที่ปัจจุบันมีอยู่ เช่น ทีมงาน สถานที่ อุปกรณ์การทำงาน ซึ่งอาจจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าในกรณีที่กิจการยังมีเงินลงทุนจำกัดในระยะแรก

  1. บริหารสภาพคล่องและเงินทุนสำรอง

การประกอบธุรกิจในช่วงแรกมักมีความเสี่ยงในเรื่องการบริหารรายรับรายจ่าย จึงต้องพิจารณาการบริหารสภาพคล่องให้เหมาะสม

  1. พิจารณาบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติม
    ผู้ประกอบการต่างๆ ควรมีสวัสดิการติดตัวเอาไว้ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจะได้ไม่กระทบเงินสำรองและเงินออม

เห็นไหมครับว่าการจะเป็นเจ้าของธุรกิจโดยเริ่มจากมนุษย์เงินเดือนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยากเลย หากคุณมีการจัดระบบทางด้านการเงินที่ดี มีการวิเคราะห์ถึงผลกระทบทางด้านต่างๆ รับรองว่าการจะเป็นเจ้าของธุรกิจใดๆ จะอยู่ใกล้แค่เอื้อมครับ