จากสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ส่งผลทำให้สภาพคล่องต่างๆ ทางการเงินของหลายคนเริ่มถดถอยลงไปด้วย ในวันนี้ฟิลลิปประกันชีวิต จึงมีบทความดีๆ ในหัวข้อ 4 วิธีการบริหารเงินสุดปัง ในช่วง COVID–19 มาติดตามกันได้เลยครับ
การเพิ่มสภาพคล่องกระแสเงินสด
เพื่อนำไว้ใช้จ่ายในช่วงโควิด สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เรามีค่าใช้จ่ายทางสาธารณสุขเพิ่มขึ้น เช่น หน้ากากอนามัย (ส่วนใหญ่ก็ซื้อได้ในราคากล่องละ 750 บาท) เจลแอลกอฮอล์ วิตามินซี แต่การเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ มีข้อจำกัดมากขึ้น จึงควรเพิ่มสภาพคล่องโดยการนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากขึ้นกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น การโยกย้ายการลงทุนจากหุ้นกู้ หุ้นทุน การฝากเงินไว้กับสหกรณ์ เป็นการนำเงินไปฝากบัญชีออมทรัพย์ให้เพียงพอกับรายจ่ายประมาณ 6 เดือน (หากคาดการณ์ว่าสถานการณ์โควิดจะคงอยู่ประมาณ 6 เดือน) การเก็บเงินสดบางส่วนไว้กับตัว
การมองหานโยบายภาครัฐ หรือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ช่วยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด
เช่น ธนาคารพักชำระเงินต้นแก่ลูกหนี้ 3-12 เดือน ให้สินเชื่อเพิ่มสำหรับลูกหนี้ SME ขยายระยะเวลาวงเงินหมุนเวียน ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ การคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้า มาตรการของสำนักงานประกันสังคม เช่น มาตรการเงินทดแทนจากการขาดรายได้ ลดอัตราเงินสมทบและขยายกำหนดเวลายื่นแบบอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน ซึ่งนโยบายต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดรับหรือช่วยลดกระแสเงินสดจ่ายของพวกเราได้
มองหาอาชีพเสริม หรืออาชีพใหม่ที่มาทดแทนอาชีพเดิม
อาชีพที่รุ่งเรืองในภาวะนี้ เช่น พนักงาน grab bike youtuber ขายของออนไลน์ หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะทำอาชีพอะไรดี ช่วงนี้เป็นเวลาที่ดีในการพัฒนาทักษะต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับโลกในยุคปัจจุบัน เช่น เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษจากห้องเรียนใน youtube หรือการดูหนังจาก Netflix พัฒนาบุคลิกภาพทั้งทางกายภาพ ทางอารมณ์และทางสติปัญญา
การลงทุนในตลาดหุ้น ตราสารหนี้ หรือหน่วยลงทุน
ปัจจุบันนี้ SET index ปิดที่ 1097 จุด (ข้อมูล ณ 27 มีนาคม 2563) ซึ่งสำหรับตลาดหุ้นไทย SET index เคยอยู่ในระดับนี้เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงที่จะเริ่มลงทุน หรือเก็บหุ้นเข้า port ในช่วงเวลานี้ เพราะสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่าหากเทียบกับระยะเวลาในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ COVID-19 หลายธุรกิจที่ไม่มีสายป่านยาว อาจจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ moขอบคุณข้อมูลจาก moneyhub