การตรวจหาโรคแฝงที่คุณไม่รู้

การตรวจคัดกรองโรคเฉพาะทาง จะทำให้คุณได้รู้ถึงความเสี่ยงของร่างกายต่อโรคร้าย หรือสามารถช่วยเราหาโรคที่ไม่แสดงอาการในช่วงระยะแรกได้ หากคุณสามารถตรวจพบเจอได้ไว จะสามารถรักษาได้ทันท่วงที ซึ่งถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับร่างกายของคุณ ทั้งการเจาะเลือด การเอกซเรย์ การอัลตราซาวด์ และการตรวจปัสสาวะ อุจจาระ

 

  1. การเจาะเลือดเพื่อหาโรคแฝง

 

การเจาะเลือดเพื่อหาโรคแฝงนั้น จะช่วยค้นหาโรคที่ไม่แสดงอาการ หรือวิเคราะห์โรคแฝงได้ เช่น การเกิดโรคเอดส์ในระยะแรก, โรคไวรัสตับอักเสบ, โรคตับอ่อน, โรคกระเพาะอาหาร ฯลฯ

 

  1. การอัลตราซาวด์วิธีหาความเสี่ยงที่ไม่มีอันตราย

 

การตรวจหาโรคแฝงด้วยการทำอัลตราซาวน์นั้น จะสามารถช่วยตรวจอวัยวะภายในต่าง ๆ ทำให้เห็นถึงความผิดปกติได้ เช่น การมีก้อนเนื้อ การมีถุงน้ำหรือไม่ ซึ่งการอัลตราซาวด์เป็นวิธีที่ไม่อันตราย โดยจะมีการอัลตราซาวด์อยู่ ด้วยกันทั้งหมด 2 ส่วน คือ
– การอัลตราซาวด์ในบริเวณช่องท้องส่วนบน เป็นการตรวจดูอวัยวะ ได้แก่ ตับ, ม้าม, ถุงน้ำดี, ท่อน้ำดีส่วนต้น, ไต และหลอดเลือดแดงใหญ่, ตับอ่อน เป็นต้น
– การอัลตราซาวด์ในช่องท้องส่วนล่าง เป็นการตรวจดูอวัยวะ ได้แก่ มดลูก, รังไข่ (หญิง), ขนาดของต่อมลูกหมาก (ชาย), กระเพาะปัสสาวะ, ไส้ติ่ง เป็นต้น
เอกซเรย์อวัยวะหาความผิดปกติ

 

การใช้การเอกซเรย์ เพื่อค้นหาความผิดปกติของร่างกายนั้น วิธีนี้เป็นหนึ่งในขั้นตอนการวินิจฉัยความผิดปกติภายในร่างกายโดยแพทย์ ซึ่งสามารถตรวจสอบอาการของคนไข้ได้ในหลายประการ เช่น ตรวจหาสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย รวมถึงการกลืนวัตถุที่เป็นอันตราย การตรวจหาความผิดปกติของกระดูก การตรวจหาบริเวณเนื้อของเต้านม เพื่อหาความผิดปกติ การตรวจการอุดตันของหลอดเลือด การตรวจหาปัญหาสุขภาพปอด โดยการตรวจเอกซเรย์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
– การเอกซเรย์กระดูก เพื่อตรวจดูความผิดปกติของกระดูกในส่วนต่าง ๆ เช่น ฟัน แขน ขา ซี่โครง เป็นต้น
– การเอกซเรย์ทรวงอก เพื่อใช้ในการตรวจปอด ตรวจหัวใจ รวมถึงการตรวจ Mammography เพื่อหาโรคมะเร็งเต้านมด้วย
– การเอกซเรย์ช่องท้อง เพื่อใช้ตรวจหาความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร และหาสิ่งแปลกปลอมในร่างกายด้านต่างๆ

 

การตรวจปัสสาวะหาการติดเชื้อ

ในการตรวจปัสสาวะเพื่อหาการติดเชื้อนี้ ถือได้ว่าเป็นการตรวจพื้นฐานได้ในหลายกรณี สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะในเบื้องต้นได้ เช่น อาการปวดท้อง อาการปวดหลัง อาการปัสสาวะบ่อย หรืออาการปัสสาวะที่มีเลือดปน เพื่อหาสาเหตุความผิดปกติที่เกิดขึ้น และยังสามารถตรวจหาโรคอื่นๆ ได้อีกในหลายๆ ส่วน เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ เป็นต้น

การตรวจคัดกรองหาโรคแฝงนั้น ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีในการหาโรคร้ายที่ทุกคนควรรู้ และควรทำหากปล่อยร่างกายไว้ไม่ยอมดูแลอาจมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายมากยิ่งขึ้นได้นั่นเองครับ