ความน่ากลัวของโควิด-19 ไม่ได้อยู่ที่แพร่ระบาดรวดเร็ว หรืออาการลุกลามรุนแรงเพียงอย่างเดียว เพราะในเรื่องของวัคซีนโควิด-19 ก็เป็นอีกเรื่องที่ยังคงถูกหยิบมาพูดถึงบ่อยในช่วงนี้ เพราะอีกไม่นานรัฐบาลกำลังจะจัดให้มีการฉีดวัคซีนโควิดในประเทศไทยให้กับคนกลุ่มแรกตามเงื่อนไข แต่ก็ยังคงเกิดการเสียงแตกเป็นสองฝ่ายว่า สรุปแล้ว วัคซีนโควิดที่กำลังจะฉีดนั้น ปลอดภัยจริงไหม? มีผลข้างเคียงหรือไม่? (พึ่งมีข่าวออกมาว่า ให้เลื่อนฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไปก่อน หลังจากหลายประเทศในยุโรปประกาศสั่งงดกัน เพราะเสี่ยงเกิดภาวะลิ่มเลือด) ในส่วนนั้นอาจจะต้องวางใจให้ภาครัฐดูแลและควบคุมกันไป แต่ด้วยความห่วงใยเราจึงขอมาบอกวิธีเช็คผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนไว้คอยสังเกตเบื้องต้นด้วยตัวเองกัน
ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับวัคซีนโควิด
นอกจากเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทั่วไปที่ผู้อ่านหลายๆ ท่านคงทราบดี (เพราะโดนกันหมดทุกระดับตั้งแต่บุคคลยันองค์กร) คงอาจจะไม่ได้หยิบเรื่องนั้นมาพูดถึงเพิ่มเติมแล้ว แต่ในตอนนี้มีเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือ ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีความเชื่อมโยงมาจากวัคซีนโควิด
เริ่มแรกคือ ช่วงเวลาที่ได้รับวัคซีนอาจจะถูกแบ่งเป็น 4 ช่วงคือ ประเทศฐานะดี (พวกสหรัฐอเมริกา-ยุโรป), ประเทศรายได้ดีถัดลงมาหน่อย, ประเทศที่มีรายได้กลางๆ และประเทศที่มีรายได้ต่ำ แน่นอนว่า ลำดับการได้รับวัคซีนจะต้องเรียงจากประเทศที่ร่ำรวยมีโอกาสกระจายวัคซีนให้ผู้คนในประเทศได้ไวกว่าประเทศที่มีรายได้ถัดลงมาไปจนถึงรายได้ต่ำ สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีน อีกทั้ง การได้รับวัคซีนที่ไม่พร้อมกันก็อาจจะส่งผลเสียถึงเรื่องเศรษฐกิจโดยรวม และความปลอดภัยในสุขภาพที่จะต้องจับตามองกันต่อไป
ปัญหาการรับวัคซีนโควิดในประเทศไทยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ
ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในไทยตอนนี้คือ การได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่ล่าช้ากว่าหลากหลายประเทศทั่วโลก (และวัคซีนบางส่วนก็ไม่มั่นใจในเรื่องของคุณภาพด้วย) ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบเหล่านี้ด้วย เช่น
– ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขจากทั้งรัฐและประชาชนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
– เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ ร่างกาย และชีวิตของประชาชน ทำให้ชีวิตของประชาชนไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ โดยปราศจากความหวาดระแวงได้ ทำให้ชีวิตไม่เหมือนเดิม พฤติกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจก็คงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอาจไม่รักษาเศรษฐกิจไว้ได้
– เพิ่มทุนด้านงบประมาณ ที่ถูกหยิบนำมาใช้ในการเยียวยา หรือรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจ
– บางอาชีพหรือบางหน่วยงานที่อาจจะยังพอมีแนวโน้มที่จะไปต่อได้ในปีนี้ก็อาจจะยังคงต้องหยุดชะงัก หรือไม่สามารถดำเนินกิจการได้อีกต่อไป
– ความมั่นใจต่อทั้ง ประชาชนในประเทศมองรัฐ และประเทศอื่นมองมายังประเทศเราด้วยความรู้สึกที่ไม่เชื่อมั่น ทำให้อาจขาดโอกาสในหลายๆ เรื่องที่สำคัญไป เช่น เรื่องของการท่องเที่ยวซึ่งเป็นธุรกิจสำคัญที่เคยขับเคลื่อนประเทศ หากประเทศเรายังไม่ได้รับวัคซีนกัน คนต่างประเทศ(ที่อยู่ในกลุ่มประเทศร่ำรวยและประเทศฐานะดี)ก็จะไม่กล้าเข้ามาท่องเที่ยวในไทย
– ฯลฯ
ผลข้างเคียงทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนโควิด
ในส่วนนี้จะไม่ได้เป็นอาการหลังฉีดวัคซีนโควิดที่น่ากังวลอะไรมากนัก เป็นเพียงอาการที่คล้ายกับการฉีดวัคซีนทั่วไป ได้แก่
- บริเวณแขนที่ฉีดวัคซีนโควิด อาจจะเกิดอาการปวด มีรอยแดง หรือ/และ บวมบ้างเล็กน้อย
- บริเวณอื่นๆ นอกจากแขนที่ฉีดวัคซีน อาจจะมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย ปวดหัว เจ็บกล้ามเนื้อ หนาวสั่น มีไข้ คลื่นไส้อยากอาเจียน ฯลฯ
*มีคำแนะนำจาก Center for Disease Control and Prevention เพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้รับวัคซีนแล้วเกิดอาการมีผลข้างเคียงเหล่านี้ เช่น เจ็บปวดเล็กน้อย รู้สึกมีไข้เหมือนจะไม่สบาย ฯลฯ อาจจะลองพูดคุยเพื่อปรึกษากับแพทย์ดูว่า ใช้ยาไอบูโพรเฟน, แอสไพริน, ยาแก้แพ้ ได้หรือไม่? (ปกติแล้วจะสามารถใช้ได้เลย ไม่มีปัญหา แต่ไม่ควรทานยาก่อนฉีดวัคซีนเพื่อหวังลดผลข้างเคียงเหล่านี้)*
นอกจากผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนโควิดที่เกิดขึ้นเพียงเล็กๆ น้อยๆ แล้วยังอาจเกิดผลข้างเคียงในระดับที่ร้ายแรงมากขึ้นได้ด้วย เช่น อาการแพ้ (โอกาสเกิดน้อยเพียง 1 ต่อ 1 ล้านคนที่ฉีด แต่ก็ประมาทไม่ได้เลย เพราะโอกาสแพ้ก็ยังคงมีอยู่) โดยอาการจะแสดงออกมาในรูปแบบ อาจจะเกิดความดันลดลงต่ำ ช็อก หมดสติ มีผื่นขึ้น หลอดลมอุดตัน หรือมีเสียงผิดปกติในปอด ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะโผล่มาให้เห็นได้เร็วไว ภายใน 15 นาทีเท่านั้น ดังนั้น หลังฉีดวัคซีนโควิดแล้ว ก็ควรจะมีการสังเกตอาการเรื่อยๆ หากมีอาการเหมือนแบบที่เล่าไป ควรรีบพบแพทย์ด่วนภายใน 15 นาที ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสปลอดภัยให้สุขภาพร่างกายและชีวิตของคุณมากขึ้น
เชื่อว่า ถ้าประชาชนคนไทยได้รับวัคซีนโควิดที่มีประสิทธิภาพกันครบทุกคนเมื่อไหร่ ก็คงจะเป็นเวลาและโอกาสที่คนไทยจะได้กลับมาลืมตาอ้าปากกันได้อีกครั้ง อย่างน้อยก็เป็นอีกตัวช่วยให้คนไทยสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติ พร้อมจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ กันอีกครั้ง แต่ก็อย่างที่ได้บอกไปว่า การฉีดวัคซีนโควิดบางตัวอาจไม่ได้เหมาะกับบางคน (ก็เหมือนยาทั่วไปที่อาจเกิดอาการแพ้ได้) ใครที่มีโอกาสกำลังจะได้ฉีดเร็วๆ นี้ก็ควรที่จะหาวิธีเช็คอาการเบื้องต้นดูว่า แบบไหนถึงเรียกว่าอาการปกติ แบบไหนเรียกว่าอาการผิดปกติหรือแพ้ เผื่อมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นจะได้พร้อมรับมือแบบทันท่วงที