ทำไมช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด นาฬิกา Rolex ถึงหาซื้อยากขึ้น ?!

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการค้าเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ จะนอกหรือจะในประเทศ ต่างก็ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ แบรนด์นาฬิกายักษ์ใหญ่ที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง Rolex   ที่ทำให้แฟนพันธุ์แท้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หาซื้อยากขึ้น แต่เหตุผลแท้จริงว่า ทำไมช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด นาฬิกา Rolex ถึงหาซื้อยากขึ้น ? และการที่หาซื้อยากขึ้น (ในขณะที่หลายแบรนด์เร่งทำยอดขาย หาไอเท็มใหม่มาตอบโจทย์เพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคอย่างเต็มที่) จะส่งผลดีต่อตัวแบรนด์หรือไม่? ถ้าอยากรู้ต้องมาดูกัน!

ทำความรู้จักกับ นาฬิกา Rolex

ก่อนที่จะไปพูดถึงว่า ทำไมช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด นาฬิกา Rolex ถึงหาซื้อยากขึ้น ?! เราจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ นาฬิกา Rolex ให้มากขึ้นกันซักเล็กน้อยก่อน

นาฬิกา Rolex เป็นหนึ่งในนาฬิกาสวิส ที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่ประมาณปี 1905 โดยผู้สร้างยึดคติว่า ไม่ต้องการนาฬิกาที่ให้แค่ความสวยงามหรูหรา แต่ต้องแสดงเวลาได้อย่างเที่ยงตรง จึงค่อนข้างเด่นในเรื่องของการใส่ใจคุณภาพมาโดยตลอด ปัจจุบันถือเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ยืนหนึ่งในเรื่องของความทนทานและกลไกการทำงานที่น่าสนใจ แต่ที่ใครต่อใครต่างพูดถึงมากที่สุดก็คือ ราคาที่ไม่เป็นรองใคร โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักสิบล้าน (ขึ้นอยู่ตามความหายาก-ง่าย) จึงเป็นที่ดึงดูดใจให้เหล่าไฮโซ เซเล็ปคนดัง นักการเมือง ยังต้องเลือกสวมใส่ คล้ายกับว่า เป็นตัวช่วยบ่งบอกฐานะของบุคคลนั้นๆ // จะเห็นได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของนาฬิกา Rolex จะเป็นคนที่ค่อนข้างมีเงิน คงสงสัยกันใช่ไหมว่า แล้วโควิด-19 จะส่งผลกระทบจริงหรอ? ในเมื่อคนรวยส่วนใหญ่แทบไม่ได้เดือดร้อนจากปัญหานั้นซักเท่าไหร่

เมื่อโควิด-19 ส่งผลกระทบถึงไฮแบรนด์

ปกติการทำแบรนด์ ส่วนใหญ่จะมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนว่า แบรนด์อยู่ระดับไหน ต้องการดึงคนกลุ่มไหน-ระดับไหนมาเป็นลูกค้า เพราะงั้นกลุ่มที่เป็นไฮแบรนด์ ราคาแพง ก็มักจะมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่ค่อนข้างชัดเจน โอกาสเกิดผลกระทบไม่สูงเท่ากลุ่มแบรนด์เล็กๆ ที่เน้นขายประชากรกลุ่มใหญ่ในแต่ละประเทศ แต่ยังไงก็ต้องยอมรับว่า โควิด-19ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปจนถึงกลุ่มไฮแบรนด์ด้วยเช่นกัน

ตั้งแต่ Hermès, Chanel, Rolex, Patek Philippe ที่มีช่วงต้องปิดโรงงานหยุดการผลิตไปชั่วคราว ไปจนถึงบางแห่งได้รับผลกระทบหนัก อย่าง Victoria’s Secret ล้มละลาย, Michael Kors ปิดร้แยกว่าสาขาอย่างถาวร ส่วน Global Brand ที่อยู่ในระดับคนทั่วไปสามารถสัมผัสได้ ก็ยังเกือบล้ม อย่าง Zara ที่ขาดทุนหลายร้อยล้าน, Starbucks ที่อาจปิดสาขาในสหรัฐอเมริกาและแคนาดากว่า 400 สาขา อย่างถาวร ฯลฯ 

การเข้าถึงยาก กับ จุดแข็งของ Rolex

จากที่เราได้พูดถึง Rolex ไปในหัวข้อที่แล้วว่า ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีช่วงต้องปิดโรงงานหยุดการผลิตไปชั่วคราว ส่งผลให้การผลิตนาฬิกาหรูแบรนด์นี้เมื่อปีที่ผ่านมา ลดลงกว่า 140,000 เรือน (คิดเป็น 19%) เหลือเพียงแค่ 810,000 เรือน จากเดิมที่เข้าถึงได้ยาก เพราะการผลิตเพื่อจำหน่ายทั่วโลก มีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการและมูลค่าค่อนข้างสูงอยู่แล้ว พอจำนวนยิ่งลดน้อยลง การเข้าถึงก็ยิ่งยากขึ้น

แม้ว่า ภาพรวมการหมุนเวียนซื้อขายภายในตลาดจะลดน้อยลงกว่า 14% ก็ตาม แต่ยิ่งผู้คนเข้าถึง Rolex ยากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกลายเป็นจุดแข็ง ทำให้เป็นเหมือนแบรนด์ในฝันที่ทุกคนตั้งเป้าหมายอยากจะลองหามาครอบครองดูซักครั้ง การที่มีการซื้อขายในตลาดน้อยลง จึงไม่ใช่ผลเสียของทางแบรนด์ แต่สร้างผลดีให้อย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนการซื้อรถสปอร์ตสุดหรูที่มีเพียงไม่กี่คันบนโลกใบนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของคนที่ครอบครองในปัจจุบันและอนาคต แต่ยังเป็นเหมือนเครื่องสะท้อนแก่ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตให้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองนาฬิกา Rolex ถึงแม้ว่าจะซื้อรุ่นที่ไม่นิยมก็ตาม

ผลที่เกิดขึ้นกับ Rolex

สืบเนื่องจากเรื่องนาฬิกา Rolex มีการหมุนเวียนซื้อขายในตลาดน้อยลงและเข้าถึงได้ยากขึ้น ผลที่เกิดขึ้นต่อมาคือ ราคาเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ย 5% และยังคงได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีสัดส่วนในตลาดประมาณ 24.9 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโลกในบรรดานาฬิกา Swiss (คิดเป็น 1 ใน 4 ของตลาด ) รวมๆ แล้วจะเห็นเลยว่า แม้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างโควิด-19แพร่ระบาดจนส่งผลกระทบต่อแบรนด์ในเรื่องของการผลิตและหาซื้อยากขึ้น แต่การปรับตัวและความเก๋าที่ครองใจคนรักนาฬิกามาอย่างยาวนานทำให้ผลเสียกลายมาเป็นผลดีต่อทางแบรนด์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ต้องยอมรับว่า สิ่งที่ Rolex ได้สร้างจนผู้คนสัมผัสถึงได้ ไม่ใช่แค่นาฬิกาสุดหรู ที่มีคุณภาพและการใช้งานขั้นเทพ แต่ยังเป็นการฝังภาพลักษณ์ให้ทุกคนได้จดจำถึงมูลค่าของสินค้าที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนหรือเหตุการณ์อะไรก็ตาม Rolex จะยังคงสร้างคุณค่าและอารมณ์ให้ผู้สวมใส่ได้รู้สึกว่า คุ้มค่าที่จะได้ครอบครอง ไม่ว่าจะรุ่นไหน ราคาเท่าไหร่ หรือไม่ใช่ของสุดฮิตที่ทุกคนต้องมีก็ตาม