“ที่อยู่อาศัย” หนึ่งในปัจจัย 4 ที่ทุกชีวิตต่างต้องการ เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปไหน หรือทำกิจกรรมอะไรในแต่ละวัน สุดท้ายร่างกายและจิตใจของคนเราก็ยังคงต้องการเวลากลับมาพักผ่อนอยู่ที่มุมเล็กๆ ภายในบ้านเสมอ คนส่วนใหญ่จึงมีความฝันที่อยากจะผ่อนบ้านเป็นของตัวเอง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสหรือผ่อนรอดตลอดจนถึงฝั่งฝัน วันนี้เราจึงขอมาบอกต่อ เทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดไว ไร้ปัญหาหนี้ค้างคาจนเป็นภาระเกินครึ่งชีวิต เพราะอนาคตเราไม่มีทางรู้เลยว่า อยู่ๆ วันหนึ่งจะมีภาระเพิ่มขึ้นหรือรายได้มีปัญหากะทันหันหรือไม่
เทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดไว
สำหรับท่านใดที่กำลังวางแพลนอยากจะลองกู้สินเชื่อผ่อนบ้านแบบสบายๆ หรือกู้มาเรียบร้อยแล้วอยากจะรีบตัดภาระที่มีอยู่หลังจากต้องแบกภาระมาเนิ่นนานแต่ต้นแทบไม่ลดลงซักที ส่วนนี้เราจะมาบอกต่อเทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดไวกัน
1) จ่ายเกินขั้นต่ำในแต่ละงวด
ใครที่เคยยื่นขอสินเชื่อมาก่อน คงจะพอทราบว่า ในแต่ละเดือนทางผู้อนุมัติให้สินเชื่อจะต้องส่งบิลมาเรียกเก็บเงิน 0แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่จะผ่อนชำระตามยอดขั้นต่ำ (สัดส่วนของยอดขั้นต่ำที่ต้องชำระส่วนใหญ่จะเป็นดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น เหมือนจ่ายไปแต่ดอกเงินต้นแทบไม่ลดลงเลย) ดังนั้น อยากให้หนี้ลดลงเยอะๆ ก็ต้องวางแผนเตรียมเงินให้พร้อมชำระมากกว่ายอดขั้นต่ำในแต่ละเดือน อย่างน้อย 10% -50% ของยอดขั้นต่ำที่ต้องชำระ *แนะนำว่า ในช่วงปีแรกๆ ควรรีบวางแผนการเงินและจ่ายไปเยอะเท่าที่เราไหว เพราะจะเป็นช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าปีอื่นๆ*
2) ชำระหนี้ให้ตรงเวลา
ในการชำระหนี้แต่ละเดือน ปกติจะกำหนดขอบเขตระยะเวลาให้ชำระ ว่า ต้องจ่ายภายในวันไหน ถ้าเป็นไปได้ผู้กู้ควรจะนำเงินมาชำระแก่ผู้ให้สินเชื่อตรงเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้น อย่างค่าทวงถาม ค่าผิดนัด ฯลฯ จึงเป็นเทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดไว อีกทั้งการชำระหนี้ตรงเวลาจะช่วยทำให้มีสถานะในระบบว่า เป็นลูกหนี้ชั้นดี สามารถมีอำนาจที่จะต่อรองเรื่องดอกเบี้ย, การปรับโครงสร้างหนี้ (เมื่อต้องการ) หรือแม้กระทั่งเมื่อมีปัญหา จนถึงขั้นถูกฟ้อง ประวัติการชำระเงินที่ดีจะสร้างประโยชน์ให้คุณได้มากกว่าที่คิด
3) เพิ่มยอดชำระหนี้มาอีกเดือน
ปกติแล้วจะมีบิลที่ต้องชำระส่งมาหาคุณทุกเดือน (ปีนึงมี 12 เดือน) หากคุณหาเงินมาโปะเพิ่มในแต่ละเดือนไม่ไหว ในแต่ละปี อาจจะนำเงินโบนัสมาจ่ายยอดชำระหนี้ให้เหมือนปีนึงมี 13 เดือนก็ได้ การจ่ายเพิ่มอีกก้อนจะเป็นอีกเทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดไว โดยหนี้จะทยอยลดลงไปพอสมควร
4) ปรับโครงสร้างหนี้
เมื่อผ่อนไปได้ระยะหนึ่ง คุณอาจจะลองพูดคุยกับผู้ที่ให้สินเชื่อ เพื่อลองเทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดไว ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้อย่าง Retention และ Refinance เพื่อปรับลดดอกเบี้ยผ่อนบ้าน โดย Retention จะเป็นการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินเดิม และ Refinance เป็นการทำเรื่องขอสินเชื่อ เพื่อผ่อนบ้านกับสถาบันการเงินแห่งใหม่ (ที่เราไม่ได้ผ่อนบ้านหลังนั้นอยู่)
ดอกเบี้ยกู้บ้าน
จากเทคนิคการผ่อนบ้านหมดไวในข้างต้น จะเห็นว่า ดอกเบี้ยกู้บ้าน ก็ควรหยิบมาเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเช่นกัน เพราะจะส่งผลถึงเรื่องความสามารถในการชำระ ในปัจจุบันนี้ ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน (อัปเดต เม.ย. 64) เฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ประมาณ 2.37%-5.95% ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร (ต้องพิจารณาร่วมถึงเรื่องความยากง่ายในการขอสินเชื่อ ระยะเวลาในการผ่อน และวงเงินกู้สูงสุดแตกต่างกันไป)
เทคนิคการเลือกบ้านให้เหมาะสมกับฐานเงินเดือน
สิ่งที่สำคัญ ไม่แพ้เรื่องเทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดไว คือ การเตรียมตัวมาดีตั้งแต่เลือกบ้านให้เหมาะสมกับฐานเงินเดือน เพราะไม่เพียงแต่จะส่งผลถึงเรื่องโอกาสความเป็นไปได้ในการขอสินเชื่อ แต่ยังส่งผลถึงเรื่องเทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดไวมากขึ้นอีกด้วย
- ค่างวดผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 40% ของรายได้รวมทั้งหมด
หลักสำคัญในการเลือกบ้านให้เหมาะสมกับฐานเงินเดือน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ความสามารถในการผ่อนแต่ละเดือนโดยพิจารณาจากรายได้รวมทั้งหมด (ส่วนใหญ่จะเป็นฐานเงินเดือน) สถาบันการเงินต่างๆ จะมีเกณฑ์จำนวนเงินผ่อนชำระหนี้สูงสุดที่น่าจะสามารถแบกรับภาระได้ ไม่เกิน 40% ของรายได้ ในกรณีที่มีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมก็จะนำมาคำนวณด้วย ดังนี้
[ เงินเดือน x 40% ] – ภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มี = ความสามารถที่สามารถผ่อนกู้บ้านในแต่ละเดือน
ดังนั้น หากฐานเงินเดือนไม่สูง ก็จำเป็นที่จะต้องหาวิธีตัดภาระอื่นๆ และหลีกเลี่ยงการสร้างภาระหนี้เพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น เพื่อให้มีความสามารถผ่อนกู้บ้านหมดไวได้อย่างเต็มที่
ด้วยความที่การผ่อนบ้านต้องใช้ระยะเวลานานนับสิบๆ ปี ในกรณีที่มีครอบครัว แล้วกลัวจะเกิดปัญหากับคนที่อยู่ข้างหลัง หรือเสียโอกาสจะได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่พยายามตั้งใจผ่อนมาเนิ่นนาน เพราะเราไม่มีวันรู้ว่า อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าตายก่อนจะผ่อนบ้านหมดก็คงลำบาก อย่าลืมที่จะมองหาประกันชีวิตที่ตอบโจทย์การใช้งาน เช่น ในเรื่องของการจัดสรรเงินประกันปิดค่าใช้จ่ายผ่อนบ้านที่เหลือครบจบจนได้รับกรรมสิทธิ์ สะดวกสบาย ไม่เป็นภาระแก่คนที่อยู่ข้างหลัง ฯลฯ