การลงทุนในหุ้น VS เงินคริปโตเคอเรนซี่ แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน

ผู้ที่กำลังสนใจอยากลงทุนในช่วงนี้เคยสงสัยไหม? ระหว่างการลงทุนในหุ้น และ สกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) ควรเลือกแบบไหน ถึงจะคุ้มค่ากว่ากัน หลังจากที่มีกระแสความไม่มั่นคงด้านเศรษฐกิจจากโควิด และเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ทำให้บางช่วงหุ้นก็แดงทั้งกระดาน หรือเงินคริปโตที่มูลค่าขึ้นทีก็ไปสูง พอลงทีก็แทบทรุด บทความนี้จึงขอมาบอกต่อกันว่า การลงทุนทั้งสองรูปแบบนี้คืออะไร? และ ต่างกันอย่างไร? เพื่อช่วยให้ทุกท่านได้ตัดสินใจเลือกลงทุนให้ตอบโจทย์ตัวเองง่ายขึ้นกัน

 

การลงทุนในหุ้น คือ อะไร?

หุ้น เป็นหนึ่งในการลงทุนยอดฮิตตลอดกาล โดยวิธีการลงทุนจะเป็นการซื้อความเป็นเจ้าของในกิจการ มีอำนาจตามสัดส่วนหุ้นที่ถือ (ออกเสียงในประชุมผู้ถือหุ้น และได้รับเงินปันผลเมื่อได้กำไร) สามารถลงทุนได้ด้วยการเปิดบัญชีหุ้นและเข้าซื้อกิจการที่คุณสนใจ อย่างน้อยตามขั้นต่ำที่หุ้นแต่ละตัวกำหนด ส่วนกำไรอาจหาได้จาก กรณีที่ถือหุ้นไว้เก็บกำไรจากเงินปันผลยาวๆ หรือ หาซื้อราคาดีแล้วขายต่อช่วงที่ราคาสูงขึ้น

 

การลงทุนในเงินคริปโต

สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซี่ นับว่า เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่มาแรงที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากที่เริ่มต้นสร้างมานานนับสิบปี แต่พึ่งมีกระแสหลังคนดังและแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกต่างให้ความสนใจร่วมให้ค่าในสกุลเงินเหล่านี้ โดยเป็นสกุลเงินเสมือนจริงที่ถูกเข้ารหัสไว้ ไม่มีรูปร่างอย่างเงินจริงของแต่ละประเทศ แต่สามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยและตรวจสอบได้ผ่านระบบบล็อกเชน ซึ่งมูลค่าจะแปรผันไปตามความต้องการซื้อหรือ Demand ทำให้มีความผันผวนสูง ส่วนกำไรอาจหาได้จากการลงทุนซื้อการ์ดจอมาติดตั้งเพื่อขุดหาเหรียญดิจิทัลถือครองไว้ เพื่อขายในช่วงราคาสูง, เทรดซื้อขาย เพื่อเก็บกำไรจากส่วนต่าง และอื่นๆ เช่น ฝากเงินแบบ Yeild Farming เพื่อได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ฯลฯ ก็ได้

 

ความแตกต่างระหว่าง หุ้น และเงินคริปโตเคอเรนซี่

หนึ่งในคำถามยอดฮิต สำหรับการลงทุนในปี 2021 นี้เลยก็คือ ลงทุนแบบไหนดีกว่า? หรือ ลงทุนแบบไหนคุ้มกว่ากัน? อาจยากที่จะตอบให้ได้ตรงใจทุกคน เราจึงขอมาแนะนำความแตกต่างระหว่างหุ้น และเงินคริปโตเคอเรนซี่ เพื่อให้ทุกคนได้พิจารณาเลือกลงทุนได้ง่ายขึ้นกัน

1) ความยากง่ายในการวางแผนการลงทุน

ในเรื่องของการวางแผนการลงทุน หุ้น ถือว่า ง่ายและเหมาะกว่ามือใหม่มาก เพราะพื้นฐานการลงทุนทั่วไป รวมถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือสามารถหาได้ง่ายกว่ามาก ยิ่งเลือกลงทุนในอุตสาหกรรมหรือบริษัทที่คุณมีความสนใจที่จะศึกษาเป็นพิเศษอยู่แล้ว ยิ่งได้เปรียบและมีโอกาสสร้างกำไรได้มากกว่านักลงทุนรายอื่น ในขณะที่การลงทุนแบบคริปโตต้องอาศัยประสบการณ์สูงและยากจะคาดเดาว่า จะขึ้นหรือลงเมื่อไหร่ เพราะหากพลาดเพียงเสี้ยววิมูลค่าก็อาจจะเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยทีเดียว

2) ลักษณะสินทรัพย์

สำหรับหุ้น การลงทุนของคุณจะเหมือนได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจการหรือบริษัทต่างๆ ที่คุณเชื่อว่า มีแนวโน้มจะเติบโตในอนาคต เป็นทรัพย์สินที่มีอยู่จริง และดำเนินธุรกิจ เพื่อค้ากำไรจริง ในขณะที่ สกุลเงินดิจิทัล จะเป็นการถือสินทรัพย์เสมือนจริง จับต้องไม่ได้ จะมีค่าก็ต่อเมื่อคนให้ค่าและความต้องการมัน

3) ระยะเวลาการทำงาน

ตลาดคริปโตจะมีการทำงานในทุกวัน ไม่มีเวลาหยุดพัก เพราะงั้นตลอด 24 ชั่วโมง คุณจะต้องเฝ้าตลาดอยู่ตลอด เพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงของมูลค่าคริปโตแต่ละสกุลเงินภายในตลาด ส่วนตลาดหุ้นจะมีเวลาทำการที่เปิดให้เทรดอยู่ ซึ่งง่ายต่อการลงทุน บริหาร และวางแผน

4) ความเสี่ยง

ทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะหุ้น หรือ คริปโตเองก็ตาม เพียงแต่คริปโตเคอเรนซี่จะมีความผันผวนสูงกว่ามาก ยากต่อการคาดเดาโดยที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ต่างจากหุ้นที่จะสามารถตามข่าว และวางแผนแนวโน้มของมูลค่าจากข่าวสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะคาดการณ์ได้ถูกทุกครั้ง เพราะในแต่ละวันและทุกช่วงเวลาอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้เสมอ

 

กลัวความเสี่ยง ควรลงทุนอะไรดี?

หากเทียบกันแล้ว ระหว่างการลงทุน คริปโตเคอเรนซี กับ หุ้น ควรจะลงทุนอะไรดี ถ้าตัวเองเป็นคนที่มีความเสี่ยง?

แน่นอนว่า อย่างที่ได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้านี้ หุ้น สามารถวางแผนและพอจะคาดการณ์ล่วงหน้า ตามสถานการณ์ปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่หากเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน ดังนั้น สำหรับคนที่กังวลในเรื่องความเสี่ยง อยากลงทุนระยะยาว แบบไม่ต้องมานั่งประเมินหรือติดตามตลอดเวลา ให้คุณกล้าจะออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมานั่งลุ้น เราขอแนะนำ การลงทุนประกันแบบออมทรัพย์ โดยอาจเลือกแบบที่มีเบี้ยประกันและการจ่ายคืนที่ได้แบบคุ้มๆ ตอบโจทย์คนกลัวความเสี่ยง แต่อยากมีเงินไว้เป็นกองทุนให้ตัวเองและคนที่คุณรักได้ใช้ในอนาคต ซึ่งชีวิตและการลงทุนอื่นๆ อาจจะไม่แน่นอน แต่ประกันให้เงินคุณตามกรมธรรม์แน่นอน

 

หลายท่านอาจจะคิดว่า ถ้างั้นเก็บออมทรัพย์ในธนาคารไม่ดีกว่าหรอ ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ลองพิจารณาดูว่า ดอกเบี้ยในธนาคารปัจจุบันน้อยมาก เพียง 1-2% การฝากเงินไว้นิ่งๆ ก็เหมือนมีมูลค่าน้อยลงไปทุกวัน ในขณะที่การประกันภัยไม่เพียง แต่ให้เงินเป็นก้อนแบบคุ้มๆ แต่ยังให้ความคุ้มครองตามที่เงื่อนไขของประกันภัยที่คุณเลือกสมัครด้วย เรียกได้ว่า เป็นการลงทุนเพียงหนึ่ง ที่ได้ถึงหลายอย่าง คุ้มๆ กันไปเลย!