การลงทุน คือทางเลือกในการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง

การลงทุน คือทางเลือกในการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง

 

ความมั่งคั่งเป็นเป้าหมายที่ทุกคนไฝ่ฝันและไม่ใช่เรื่องยากหากเราเข้าใจเส้นทางของความมั่งคั่ง

 

ถนนสู่ความมั่งคั่งนี้ มีไม่กี่ด่านที่เราจะต้องผ่านไปให้ได้ ทุกด่านใช้แค่ใจจดจ่อและระเบียบวินัยเท่านั้น

 

ด่านแรก เริ่มต้นที่การทำงานของตัวเราเองเพื่อแลกกับรายได้ ซึ่งทุกคนมีความสามารถเฉพาะตัวในการทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน เพียงแต่จำนวนนั้นไม่เท่ากัน คนที่ทำเงินได้มากกว่าโอกาสที่จะเดินถึงเส้นชัยก็เร็วกว่า

 

ด่านที่สอง การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน คนที่ใช้จ่ายน้อยและใช้ไปกับเรื่องที่จะสร้างความยั่งยืนในชีวิต เช่นการกินอยู่อย่างมีคุณภาพจะทำให้สุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ไม่หลงใช้จ่ายไปกับความอยากที่สร้างความสุขระยะสั้นมากเกินไป

 

ด่านที่สาม หลังใช้จ่ายคนที่มีเงินเหลือมากก็จะมีเงินเก็บออมมาก ด่านนี้เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีพาวเวอร์หรืออำนาจในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น

 

ทั้งสามด่านข้างต้น หากทำได้ดีมีวินัยจะทำให้ชีวิตของเรามีความเข้มแข็งแต่ยังไม่ทำให้เรามั่งคั่งเพราะเงินออมถ้าเก็บไว้เฉยๆมีแต่จะลดค่า หรือถ้าฝากธนาคารอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับต่ำมากๆ ผลตอบแทนรวมที่ได้รับก็ต่ำ คือรวยช้านั่นเอง

 

ด่านที่สี่ การลงทุน คือทางเลือกในการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง เป็นการใช้พลังของเงินเก็บเบ่งเงินก้อนใหม่ออกมา หรือใช้เงินทำงานหาเงินให้เราอีกทางหนึ่ง เท่ากับว่าตอนนี้เรามีช่องทางทำเงินสองช่องทาง คือ ใช้ตัวเราทำงานอย่างหนักหาเงิน และใช้เงินออมอย่างหนักในการหาเงินให้เรา

 

การลงทุน คือทางเลือกในการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง เป็นเรื่องที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นเส้นทางพาเราสู่ความมั่งคั่งอย่างแท้จริง จึงได้เกิดการลงทุนอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งลงทุนทางตรงด้วยการเข้าไปทำธุรกิจ และลงทุนทางอ้อมด้วยการเข้าไปซื้อหลักทรัพย์(หุ้น)ที่มีโอกาสได้กำไรสูง แต่ก็มีโอกาสขาดทุนเช่นกัน

 

ยิ่งมีเงินออมมาก เงินที่จะไปลงทุนก็มากตาม โอกาสได้รับผลตอบแทนจาก 1.ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น 2.จากเงินปันผล ก็สูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นที่เรียกกันในกลุ่มนักลงทุนว่าการให้เงินทำงาน หลายคนประสบความสำเร็จในการลงทุนถึงขั้นเลิกทำงานประจำแล้วออกไปทำในสิ่งที่ฝันโดยไม่มีความกังวลเรื่องรายได้หลังไม่ได้ทำงานประจำแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่พอมาถึงด่านที่สองก็แพ้ราบคาบ พอผ่านด่านที่สองไม่ได้ก็ไม่มีโอกาสได้เล่นด่านที่สามและด่านที่สี่ซักที ชีวีจึงห่างไกลความมั่งคั่ง ทำให้คนไทยมีปัญหาเงินไม่พอใช้เมื่อเกษียณ ได้แต่แอบนั่งเล่นหวยเพราะฝันจะเป็นตัวช่วยรวยทางลัดซึ่งยากมาก

 

สำหรับคนที่มาถึงด่านที่สี่ มีเงินลงทุน  มีการวางแผน ใช้เหตุใช้ผล มีวินัยสูง ใช้เวลาอดทนรอให้เงินลงทุนสร้างเงินก้อนใหม่ขึ้นมา จะเข้าสู่โซนรวยก่อนแก่ สบายแฮยามเกษียณ

 

ในด่านการลงทุน เราไม่ถูกโดดเดี่ยว เป็นด่านที่มีตัวช่วยทรงพลัง นั่นคือ กองทุนรวม หากเลือกตัวช่วยถูก  ด่านนี้จะเป็นสปริงบอร์ดให้เราไปถึงดินแดนของความมั่งคั่งเร็วที่สุด

 

เราสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ทันทีที่มีเงินออม อย่าสปอยตัวเองโดยคิดว่าอายุยังน้อยอยู่ เพราะถ้ารออายุมากขึ้นจะสายเกินไป เงินจะไม่พอใช้หลังเกษียณ

 

การลงทุนที่ใช้เงินน้อย และเริ่มได้ทันที ไม่ต้องให้เวลามากก็ทำได้ คือการลงทุนในหลักทรัพย์(หุ้น) การลงทุนในกองทุนรวม อย่างสม่ำเสมอทุกๆเดือน ที่วงการตลาดทุนเรียก DCA หรือ Dollar Cost Average  เพียงเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับทางโบรกเกอร์ ทั้งเดินไปที่โบรกฯ หรือ จะเปิดบัญชีออนไลน์ พอผ่านการอนุมัติ ก็สามารถลงทุนได้ทันที ขั้นต่ำส่วนใหญ่เริ่มที่เดือนละ 1,000 บาท  และการลงทุนในประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ ยูนิตลิงค์ ที่มีการชำระเบี้ยรายปี

 

การลงทุนในหุ้น ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้นโดยตรงทีละตัว แต่สามารถใช้กองทุนรวมมาเป็นตัวช่วย เพราะมีความเป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์ มีความรู้ จะทำให้เราผ่านด่านได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงลงได้ เพราะก่อนลงทุน  ทางเจ้าหน้าที่กองทุนจะมีการประเมินความเสี่ยง และสรุปว่าเราเหมาะกับการลงทุนแบบไหนจากนั้นจะคัดสรรกองทุนรวมที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เรารับได้มาให้เราเลือก

 

อาทิ กองทุนรวมที่มีการผสมหลักทรัพย์หลากหลาย ทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน ระหว่างสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่แน่นอน กับสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนผันผวนไม่แน่นอน

 

ยกตัวอย่าง กองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรตราสารหนี้ 60% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 10% ลงทุนในทองคำ 10% ลงทุนในเฮลท์แคร์ 10% ลงทุนในสตาร์ทอัพ 10% หากราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจะทำให้สัดส่วนพอร์ตลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงกว่า 10% เมื่อถึงเวลาของการปรับพอร์ตสัดส่วนการลงทุนจะถูกปรับอัตโนมัติให้เหลือ 10% ตามเดิม

 

หากอยากได้ประโยชน์จากภาษี ก็เลือกลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)  หรือ เพิ่มเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(PVD) ที่สามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทุกปี จนถึง 55 ปี ได้อีก แล้วนำเงินก้อนดังกล่าวกลับเข้าไปลงทุนเพิ่ม

 

การลงทุนที่ทำให้ขนาดของเงินเติบโตขึ้น ต้องใช้เวลานาน บางตำราบอก 7 ปีขึ้นไป บางตำราบอก10 ปีขึ้นไป ผู้ลงทุนจึงต้องมีจิตใจที่แน่วแน่ เข้มแข็งกับความผันผวนที่เกิดขึ้นระหว่างทาง.

 

อาท ช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดทำให้ราคาหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างหนัก เพราะธุรกิจไม่สามารถค้าขายได้เหมือนก่อน ทำให้เงินลงทุนของเราลดลง

 

อย่างไรก็ตาม กูรูหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมีความเชื่อกันว่า เมื่อสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้และรักษาได้ การเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ และการค้าขาย จะกลับมาเป็นปกติ และในระยะยาว 5-10 ปีข้างหน้าราคาสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นทำให้เงินลงทุนของเราเติบโตขึ้นตามไปด้วย

 

การลงทุน คือทางเลือกในการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง ที่เราควรเริ่มตั้งแต่วันนี้

#PLA

#PhillipLife

#PhiilipLifeTh

#YourPartnerForLife